ข่าว

ผู้เชี่ยวชาญธนาคารโลกคาดการณ์ภัยพิบัติทางน้ำของประเทศไทยจะเลวร้ายยิ่งขึ้น

นายสาโรจ คุมาร์ จาร์ (Mr. Saroj Kumar Jha) ผู้อำนวยการใหญ่ด้านภารกิจทรัพยากรน้ำของธนาคารโลก กล่าวเตือนว่า ประเทศไทยอาจประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหตุการณ์น้ำท่วม เมื่อเดือนที่แล้วในการบรรยาย “การประชุมเชิงปฏิบัติการการจัดการความเสี่ยงและบรรเทาอุทกภัยในแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง”  นายสาโรจเน้นย้ำถึงผลกระทบจากภัยพิบัติที่เกี่ยวข้องกับน้ำต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศไทย“ทั่วโลกมีน้ำสำรองไว้ประมาณ 2.7 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งมากกว่าที่ประชากรโลกต้องการถึง 50 เท่า” เขากล่าว “อย่างไรก็ตาม จำนวนประชากรก็จะเพิ่มมากขึ้น การขาดแคลนน้ำจึงยังคงมีอยู่และกลายเป็นปัญหาใหญ่ในที่สุด”อ่านต่อ ...

ผู้สื่อข่าว เดอะ เนชั่น

เห็นชอบแผนพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก

เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกของประเทศไทย ได้อนุมัติแผนพัฒนาโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) สำหรับปี พ.ศ.2566-2570 เพื่อดึงดูดรายได้เฉลี่ย 100,000 ล้านบาท (2.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ต่อปีคณะกรรมการฯ ยังได้อนุมัติโครงการเสนอวีซ่าอายุ 10 ปีแก่นักลงทุนในธุรกิจเป้าหมายในภูมิภาคอุตสาหกรรมตะวันออกเพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ โดยคาดว่าโครงการนี้จะเริ่มในปีหน้านายภูมิธรรม เวชยชัย องนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า แผนดังกล่าวชี้ให้เห็นยุทธศาสตร์การพัฒนา 5 ประการ เพื่อส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายและบริการในอนาคต ปรับปรุงประสิทธิภาพของโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค เพิ่มขีดความสามารถของบุคลากรในการปรับตัวให้เข้ากับ การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและนวัตกรรม การพัฒนาเมืองที่ทันสมัย น่าอยู่ และเป็นมิตรกับอาชีพ และการเชื่อมโยงผลประโยชน์ที่ได้รับจากการลงทุนเข้ากับการพัฒนาที่ยั่งยืนของชุมชนอ่านต่อ ...

การขาดแคลนแรงงานในภาคบริการและการก่อสร้าง

สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เตือนปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาคบริการและการก่อสร้างอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีความต้องการแรงงานสูงถึง 13 ล้านคนการขาดแคลนแรงงานเป็นปัญหาสำคัญในปีนี้ โดยเฉพาะในภาคบริการซึ่งมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย ในปี พ.ศ.2565 ภาคบริการมีมูลค่า 10.20 ล้านล้านบาท คิดเป็น 58.7% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของประเทศไทย และมีการจ้างงาน 20.80 ล้านคน คิดเป็น 53% ของการจ้างงานทั้งหมดอ่านต่อ ...

ผู้สื่อข่าว เดอะ เนชั่น

รายงานเผยแนวโน้มเศรษฐกิจดิจิทัลเติบโตต่อเนื่อง

ตามข้อมูลของ Google ระบุว่า การมุ่งเน้นไปที่ผู้ใช้ที่มีมูลค่าสูงด้วยประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล (ESG: environmental, social and governance) รวมถึงการรวมระบบดิจิทัล และกฎระเบียบโครงสร้างพื้นฐานข้อมูล จะนำไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัลที่ยั่งยืนของประเทศไทย จากรายงาน “e-Conomy SEA 2023” จัดทำโดย Google, Temasek และ Bain ระบุว่า สาขาบริการทางการเงินดิจิทัล (DFS) สุขภาพ การศึกษา อาหาร และปัญญาประดิษฐ์ (Al) เป็นหนึ่งในโอกาสในการเติบโตที่มีศักยภาพในการดึงดูดนักลงทุนเอกชนให้ลงทุนในสตาร์ทอัพแจ็กกี้ หวาง ผู้อำนวยการประจำกูเกิลประเทศไทย กล่าวว่า “เป็นเรื่องน่าทึ่งที่ทั้งมูลค่าสินค้ารวมจากเศรษฐกิจดิจิทัลของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และรายได้ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยตัวเลขสองหลัก โดยมีรายได้ทะลุ 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี พ.ศ.2566” อ่านต่อ ...

ผู้สื่อข่าวบางกอกโพสต์

'สังคม 5.0' ต้องการยกระดับทักษะ

รัฐบาลควรลงทุนเพิ่มเติมในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อเตรียมรับมือสังคม 5.0 ซึ่งนวัตกรรมเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ (Al) จะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก ตามที่นายกสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย (GCNT) กล่าวบรรยายในงาน GCNT Forum 2023 ในหัวข้อ “ความร่วมมือเพื่อทุนมนุษย์ 5.0 สู่สังคมอัจฉริยะที่ยั่งยืน” นายศุภชัย เจียรวนนท์ กล่าวว่า ทรัพยากรมนุษย์เป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะช่วยให้ประเทศบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs)ทรัพยากรมนุษย์ที่ได้รับการพัฒนามีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนสังคม 5.0 เนื่องจากปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีขั้นสูงจะมีบทบาทสำคัญในด้านเศรษฐกิจและการพัฒนาสังคมอ่านต่อ ...

ผู้สื่อข่าวบางกอกโพสต์

ประเทศไทยเดินหน้าพัฒนาเมืองอัจฉริยะ

ประเทศไทยกำลังเร่งการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (smart city) โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความสามารถด้านดิจิทัลของประเทศและคุณภาพชีวิตของชุมชนเมืองไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวในคำกล่าวเปิดงาน Thailand Smart City Expo 2023 โดยกล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของวาระแห่งชาติ ซึ่งรัฐบาลกำลังใช้เทคโนโลยีเชิงกลยุทธ์เพื่อการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ โดยมุ่งเน้นไปที่การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน การพัฒนาเมืองที่มีความยืดหยุ่น และการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงอ่านต่อ ...

นักวิเคราะห์การเงินต่างประเทศคาด ธปท. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายไทยในปีหน้า

นักวิเคราะห์ต่างประเทศสองคน คาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปีหน้าเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อของประเทศที่ลดลงในแถลงการณ์ที่ออกเมื่อวันอังคารโดยธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด กล่าวว่า คาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.5% ในการประชุมครั้งสุดท้ายกับคณะกรรมการนโยบายการเงินและการเงินในวันที่ 29 พฤศจิกายนอย่างไรก็ตาม คาดว่า ธปท. จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปีหน้า เนื่องจากการเติบโตที่ลดลงและอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงสแตนดาร์ดชาร์เตอร์กล่าวว่า การคาดการณ์การเติบโตของ GDP สำหรับประเทศไทยในปีนี้จะลดลงจาก 3.3% เป็น 2.5% และในปีหน้าจาก 4.2% เป็น 3.2%อ่านต่อ ...

ผู้สื่อข่าว เดอะ เนชั่น

การเติบโตเศรษฐกิจไทยชะลอตัวในไตรมาสที่ 3

สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายนว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของประเทศไทยขยายตัว 1.5% ในไตรมาสที่สามจากปีก่อนหน้า ตัวเลขนี้ต่ำกว่าการเติบโต 2.4% ที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ในการสำรวจของรอยเตอร์ที่เผยแพร่ก่อนหน้านี้ และการเติบโต 1.8% ที่บันทึกไว้ในไตรมาสที่สองเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เผชิญกับความต้องการทั่วโลกที่ซบเซา ในขณะที่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนในประเทศไทยลดลง แม้ว่าการหยุดชะงักทางการเมืองหลังการเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคมจะยุติลงก็ตาม รัฐบาลใหม่ซึ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนสิงหาคมได้วางแผนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆอ่านต่อ ...

สภาผู้ส่งออกคาด การส่งออกของไทยจะหดตัวในปีนี้

สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทยคาดการณ์ว่า การส่งออกของไทยในปีนี้จะหดตัว 1.5% เมื่อเทียบเป็นรายปีนายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือสภาผู้ส่งออก เปิดเผยว่า แม้ว่าการส่งออกของไทยจะเริ่มมีแนวโน้มสดใสขึ้น แต่การเติบโตจะยังคงติดลบเนื่องจากการหดตัวในช่วงต้นปี เขากล่าวว่าการส่งออกในเดือนสิงหาคมเริ่มเห็นการเติบโต 2.6% เป็นครั้งแรกในรอบ 11 เดือน ตามมาด้วยการเติบโตเพิ่มขึ้น 2.1% ในเดือนกันยายนสภาผู้ส่งออกคาดว่า ในไตรมาสที่สามจะมีการเติบโตอยู่ระหว่าง 5% ถึง 7%  แต่จะไม่สูงพอที่จะชดเชยการหดตัวตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกรกฎาคมอ่านต่อ ...

ผู้สื่อข่าว เดอะ เนชั่น

คณะรัฐมนตรีไฟเขียว เห็นชอบร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม

เมื่อวันอังคาร คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างกฎหมายแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เพื่อให้คู่รักเพศเดียวกันสามารถแต่งงานกันและได้รับการคุ้มครองและสิทธิพิเศษทางกฎหมายเช่นเดียวกับคู่รักต่างเพศนายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ มุ่งหวังที่จะอนุญาตให้คนเพศเดียวกันสามารถแต่งงานได้โดยมีสิทธิตามกฎหมายโดยสมบูรณ์ นอกจากนี้ยังช่วยให้กลุ่ม LGBTQ สามารถสร้างครอบครัวและรับรองว่าคู่สมรสทั้งสองมีสิทธิเท่าเทียมกันรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลักการสำคัญของร่างกฎหมายคือ กำหนดให้บุคคล 2 คน ไม่ว่าเพศใดสามารถทำการหมั้นหรือสมรสกันได้ แก้ไขคำว่า “ชาย” “หญิง” “สามี” “ภริยา” และ “สามี ภริยา” เป็น “บุคคล” “ผู้หมั้น” “ผู้รับหมั้น” และ “คู่สมรส” เพื่อให้มีความหมายครอบคลุมคู่หมั้น หรือคู่สมรส ไม่ว่าจะมีเพศใด รวมทั้งแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะทำให้บุคคลนั้นมีสิทธิ หน้าที่ และสถานะทางครอบครัวเท่าเทียมกับคู่สมรสที่เป็นชายและหญิงอ่านต่อ ...

ผู้สื่อข่าว เดอะ เนชั่น

Contact us

Contact us

Do you have questions on the content published by Open Development Thailand? We will gladly help you.

Have you found a technical problem or issue on the Open Development Thailand website?

Tell us how we're doing.

Do you have resources that could help expand the Open Development Thailand website? We will review any map data, laws, articles, and documents that we do not yet have and see if we can implement them into our site. Please make sure the resources are in the public domain or fall under a Creative Commons license.

File was deleted
ERROR!

Disclaimer: Open Development Thailand will thoroughly review all submitted resources for integrity and relevancy before the resources are hosted. All hosted resources will be in the public domain, or licensed under Creative Commons. We thank you for your support.

ujNDx
* The idea box couldn't be blank! Something's gone wrong, Please Resubmit the form! Please add the code correctly​ first.

Thank you for taking the time to get in contact!