ข่าว
การใช้จ่ายภาครัฐที่สูงขึ้นและการส่งออกที่ฟื้นตัว จะช่วยกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจไทย
เมื่อวันศุกร์ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ระบุว่า การเพิ่มการใช้จ่ายภาครัฐ การบริโภคภาครัฐที่สูงขึ้น ตลอดจนการลงทุนภาคเอกชน อาจช่วยกระตุ้นการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของประเทศไทยในปี พ.ศ.2567 เป็นร้อยละ 2.7 ถึง 3.7 นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวว่า สภาพัฒน์คาดว่าการใช้จ่ายภาครัฐจะเพิ่มขึ้น หลังจากที่ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณปีงบประมาณ พ.ศ.2567-2568 มีผลบังคับใช้ ขณะเดียวกันการบริโภคภาครัฐและการลงทุนภาคเอกชนก็มีแนวโน้มขยายตัวตามเศรษฐกิจที่ดีขึ้นหลังวิกฤตโควิด-19 ส่งผลให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการฟื้นตัวสภาพัฒน์คาดการณ์ว่าภาคการส่งออกในปี พ.ศ.2567 จะขยายตัว 3.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี อันเป็นผลมาจากข้อตกลงการค้าเสรีที่จะมีการเจรจากับคู่ค้าในปีหน้ามากขึ้นอ่านต่อ ...
ผู้สื่อข่าว เดอะ เนชั่น
คาดร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมจะมีผลใช้บังคับในปีหน้า
นายกิตตินันท์ ธรมธัช นายกสมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย คาดว่า ร่างพระราชบัญญัติการแต่งงานที่เท่าเทียมนี้จะมีผลบังคับใช้ในปีหน้านายกิตตินันท์กล่าวภายหลังร่างกฎหมาย 4 ฉบับที่เกี่ยวข้องกับประเด็นเรื่องเพศและเสนอความเท่าเทียมในการแต่งงาน ผ่านการพิจารณาวาระแรกในรัฐสภาเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ที่ผ่านมาความก้าวหน้านี้จะทำให้ประเทศไทยกลายเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่รับรองการแต่งงานของคนเพศเดียวกันอย่างถูกกฎหมาย ซึ่งร่างกฎหมายการแต่งงานที่เท่าเทียมคาดว่าจะมีผลใช้บังคับในปีหน้าแม้จะมีความแตกต่างในร่างกฎหมาย 4 ฉบับที่เกี่ยวข้องกับการแต่งงานเพศเดียวกันที่เสนอโดยคณะรัฐมนตรี พรรคก้าวไปข้างหน้าและพรรคเดโมแครต รวมถึงกลุ่มประชาสังคม แต่รายละเอียดโดยรวมก็คล้ายคลึงกับการแต่งงานระหว่างชายและหญิงอ่านต่อ ...
ผู้สื่อข่าว เดอะ เนชั่น
ความต้องการทักษะด้านดิจิทัลเปลี่ยนตลาดงาน เนื่องจากผู้หางานให้ความสำคัญกับคุณภาพ
ในขณะที่เศรษฐกิจค่อย ๆ ฟื้นตัวจากการแพร่ระบาด การแสวงหางานทำของผู้หางานเป็นมากกว่าแค่รายได้ที่มั่นคงคุณดวงพร พรหมอ่อน กรรมการผู้จัดการ บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด แบ่งปันข้อมูลเชิงลึกจาก Global Talent Survey ซึ่งสำรวจตลาดงานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะการสำรวจนี้ครอบคลุมผู้คน 97,324 คน จาก 6 ประเทศในเอเชีย รวมถึง 2,636 คน จากประเทศไทย เผยให้เห็นถึงความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของตลาดแรงงานจากการสำรวจพบว่า งานที่เป็นที่ต้องการ 5 อันดับแรก ได้แก่ การจัดการข้อมูลดิจิทัล การวิเคราะห์ และปัญญาประดิษฐ์ (AI) สื่อ ศิลปะ และการออกแบบ การบริการและการต้อนรับ บริการทางการเงิน บริการด้านสุขภาพและสังคมอ่านต่อ ...
ผู้สื่อข่าว เดอะ เนชั่น
บีโอไออนุมัติโครงการลงทุน 'สีเขียว' โครงการ PM2.5
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ ได้อนุมัติมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อแก้ไขปัญหามลพิษฝุ่นละออง PM2.5 ตามที่นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน กล่าวมาตรการดังกล่าวเป็นการขยายขอบเขตการสนับสนุนผ่านมาตรการส่งเสริมการลงทุน เพื่อการพัฒนาชุมชนและสังคม ครอบคลุมการสนับสนุนองค์กรท้องถิ่นและกลุ่มเกษตรกรในการยกระดับมาตรฐานสิ่งแวดล้อมในชุมชน รวมถึงการจัดการป่าไม้ในพื้นที่เป้าหมาย ได้แก่ ป่าชุมชน ป่าอนุรักษ์ และป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อบรรเทาปัญหามลพิษฝุ่นละออง PM2.5 ที่เกิดขึ้นทั่วประเทศอ่านต่อ ...
ผู้สื่อข่าว เดอะ เนชั่น
ยุทธศาสตร์ชาติต้องมีความยืดหยุ่นและทันสมัย
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เชื่อว่า ยุทธศาสตร์ชาติควรได้รับการปรับปรุงอย่างสม่ำเสมอ เพื่อตอบสนองต่อภูมิทัศน์โลกซึ่งเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วอย่างมีประสิทธิผล แทนการปฏิบัติตามแผน 20 ปีเมื่อวันพุธ นายเศรษฐาแสดงได้ความเห็นในการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติครั้งที่ 2 ณ ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในการประชุมนายเศรษฐา กล่าวว่า “เขาไม่เชื่อในการวางแผนล่วงหน้าสำหรับยุทธศาสตร์ชาติมากเกินไป แผน 20 ปีนั้นยาวเกินกว่าจะทำได้” และ “ไม่มีใครสามารถคิดล่วงหน้าได้ไกลขนาดนี้ ไม่ต้องกล่าวถึง 20 ปี ซึ่งเป็นการยากอยู่แล้วที่จะวางแผนล่วงหน้า 5 ปี”นายเศรษฐาอ้างถึงยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีที่ประกาศใช้ในปี พ.ศ.2561 โดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติที่ได้รับการแต่งตั้งโดยรัฐบาลทหารหลังรัฐประหารปี พ.ศ.2557อ่านต่อ ...
ผู้สื่อข่าว เดอะ เนชั่น
ไทยเตรียมขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในปีหน้า
ตามแผนที่วางไว้ประเทศไทยมีกำหนดขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำในเดือนหน้า และรัฐบาลก็กำลังพิจารณาขึ้นค่าจ้างอีกครั้งในเดือนมีนาคม พ.ศ.2567 กล่าวยืนยันโดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ยืนยันเมื่อวันที่ 26 ธันวาคมคณะกรรมการค่าจ้างซึ่งประกอบด้วยรัฐบาล นายจ้าง และตัวแทนลูกจ้าง ได้ตกลงที่จะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำรายวันอีก 2.37% ซึ่งมีผลตั้งแต่เดือนมกราคม แต่นายกรัฐมนตรีถือว่าการปรับขึ้นค่าจ้างต่ำเกินไปดังนั้นพรรคเพื่อไทยจึงรณรงค์ให้ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำรายวันเป็น 400 บาท (11.56 ดอลลาร์สหรัฐฯ)อ่านต่อ ...
การส่งออกไทยขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4
กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ในเดือนพฤศจิกายน การส่งออกของไทยเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่สี่ติดต่อกัน จากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในตลาดคู่ค้าที่สำคัญ การขนส่งสินค้าในเดือนนี้เพิ่มขึ้น 4.9% มูลค่า 23.48 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่การนำเข้าขยายตัว 10.1% มูลค่า 25.88 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ขาดดุลการค้า 2.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐนายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า การส่งออกที่เติบโตติดต่อกัน แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของประเทศท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อที่ชะลอตัวอ่านต่อ ...
ครม. เห็นชอบร่างกฎหมายงบประมาณปี 2567 แผนใช้จ่ายภาครัฐ 3.48 ล้านล้านบาท
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ปีงบประมาณ 2567 โดยมีแผนการใช้จ่ายภาครัฐ 3.48 ล้านล้านบาท นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ประกาศนายเศรษฐากล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ว่า ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณและเอกสารประกอบได้รับการตรวจสอบจากสำนักงานกฤษฎีกาแล้วส่งกลับให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติโดยนายเศรษฐากล่าวว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวจะถูกส่งต่อให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ซึ่งพิจารณาครั้งแรกซึ่งมีกำหนดในวันที่ 3 และ 4 มกราคมที่จะถึงนี้โดยปกติร่างพระราชบัญญัติงบประมาณจะประกาศใช้ก่อนเริ่มปีงบประมาณในเดือนตุลาคม แต่ในปีนี้ การจัดตั้งรัฐบาลผสมครั้งแรกต้องล่าช้าออกไปหลายเดือนภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมอ่านต่อ ...
ผู้สื่อข่าว เดอะ เนชั่น
ไทยตั้งเป้าบรรลุการเจรจา FTA กับ EU ในปี’68
ประเทศไทยมีกำหนดเป็นเจ้าภาพจัดการเจรจารอบที่สองเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเสรี (free trade agreement; FTA) กับสหภาพยุโรป (European Union; EU) ในปลายเดือนมกราคมนางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า การอภิปรายรอบกรุงเทพฯ จะครอบคลุมถึงการเปิดเสรีการค้า การลงทุน และการบริการ ทั้งสองฝ่ายวางแผนที่จะจัดการประชุมปีละสามครั้ง โดยมีเป้าหมายที่จะสรุปการเจรจาภายในปี พ.ศ.2568ประเทศไทยและสหภาพยุโรปจัดการเจรจา FTA รอบแรกในเดือนกันยายนปีนี้ที่กรุงบรัสเซลส์ รอบนี้ประกอบด้วยการประชุมระดับหัวหน้าคณะผู้แทนและการประชุมคณะอนุกรรมการระดับผู้เชี่ยวชาญ 19 ครั้งอ่านต่อ ...
ไฟฟ้าพลังน้ำ ทำให้ชาวลุ่มแม่น้ำโขงหลายล้านคนเผชิญกับภัยพิบัติด้านสภาพภูมิอากาศ
แม้ว่าจะถูกขนานนามว่าเป็นแหล่งพลังงานหมุนเวียนที่สะอาด แต่จริงๆ แล้วไฟฟ้าพลังน้ำ (hydropower) กลับเพิ่มความเสียหายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กล่าวโดยผู้เชี่ยวชาญที่เคยศึกษาโครงการเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำในแม่น้ำโขงโครงการเหล่านี้ทำให้ชุมชนลุ่มแม่น้ำโขงมีโดยผู้เชี่ยวชาญเน้นย้ำว่า ความเสี่ยงต่อภัยคุกคามจากสภาพอากาศที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ เขื่อนได้ขัดขวางการไหลของแม่น้ำ สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงต่อระบบนิเวศที่ซับซ้อนและความหลากหลายทางชีวภาพอันอุดมสมบูรณ์ ที่ซึ่งผู้คนหลายล้านคนที่อาศัยอยู่ในลุ่มน้ำโขงต้องพึ่งพาในการดำรงชีวิตผู้เชี่ยวชาญและผู้อยู่อาศัยกล่าวว่า สิ่งนี้ส่งผลเสียต่อความสามารถในการบรรเทาและปรับตัวเข้ากับสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง อ่านต่อ ...