สิทธิมนุษยชน
สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง
รัฐบาลเสนอร่างกฏหมายต่อสู้กับ 'ข่าวปลอม' บ่อนทำลายเสรีภาพในการแสดงออก
ARTICLE 19 เสนอว่า การที่รัฐบาลในการจัดการกับ ‘ข่าวปลอม’ จะยิ่งจำกัดสิทธิดิจิทัลและเสรีภาพในการแสดงออกของไทยมากขึ้นไปอีก ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ได้เปิดเผยแผนงาน รวมถึงกฎระเบียบใหม่ภายใต้ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะกระชับการควบคุมของรัฐบาลบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและกำหนดอุปสรรคเพิ่มเติมในการแสดงออกทางออนไลน์ กระทรวงควรละทิ้งความพยายามเหล่านี้ เพื่อสนับสนุนแนวทางที่เคารพสิทธิมนุษยชนของผู้ใช้โซเชียลมีเดียและผู้อื่นที่แสดงความคิดเห็นที่เป็นข้อขัดแย้งหรือวิพากษ์วิจารณ์อ่านต่อ ...
รัฐบาลต้องรับฟังผู้ประท้วงที่สนับสนุนประชาธิปไตย
ตามผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดของสวนดุสิตเกี่ยวกับการใช้ชีวิต“ ท่ามกลางการประท้วงต่อต้านรัฐบาล” พบว่าประชาชนส่วนใหญ่เชื่อว่ารัฐบาลและผู้ประท้วงเพื่อประชาธิปไตยควรยอมรับซึ่งกันและกันโดยการสำรวจครั้งนี้จัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 1 ถึง 5 มีนาคม มีผู้ตอบแบบสอบถามที่มีความสนใจในการเมืองทั้งหมด 1,147 คน อ่านต่อ ...
ผู้สื่อข่าว เดอะ เนชั่น
Freedom House จัดไทยอยู่กลุ่มประเทศ 'ไร้เสรีภาพ'
ในการวิเคราะห์เสรีภาพทั่วโลกของ Freedom House ในปี พ.ศ.2564 พบว่าประเทศไทยได้คะแนน 30 จาก 100 คะแนนน้อยกว่าปีที่แล้ว 2 คะแนนเนื่องจากมีผลการดำเนินงานที่ไม่ดีในด้านสิทธิทางการเมืองและสิทธิเสรีภาพในหลาย ๆ ด้าน ซึ่งได้ลดสถานะของประเทศจาก “เสรีเป็นบางส่วน หรือ Partly Free” เป็น “ไร้เสรีภาพ หรือ Not Free”รายงาน Freedom in the World ของ Freedom House ให้เหตุผลในการลดสถานะของไทยจากการยุบพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งรายงานระบุว่าเป็น“ พรรคฝ่ายค้านที่ได้รับความนิยม และทำได้ดีในการเลือกตั้งปี พ.ศ.2562” และการปราบปรามการประท้วงที่นำโดยเยาวชนของ“ รัฐบาลทหาร”อ่านต่อ ...
ความตึงเครียดใน กทม. ท่ามกลางการประท้วงครั้งใหญ่
ความตึงเครียดเพิ่มสูงขึ้นในการประท้วงเพื่อประชาธิปไตยของไทย เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาตำรวจได้ยิงประชาชน 6 คน ใช้แก๊สน้ำตาและปืนฉีดน้ำกับผู้ชุมนุมบนท้องถนนในกรุงเทพฯในขณะที่เมืองหลวงของไทยเตรียมพร้อมสำหรับการชุมนุมครั้งใหญ่ครั้งต่อไปในวันพุธนี้ ซึ่งต้องจับตาดูการใช้ความรุนแรงและความไม่สงบทางการเมืองที่มีมายาวนานอ่านต่อ ...
บาดเจ็บ 18 คน การประท้วงที่รุนแรงที่สุดในประเทศไทยนับตั้งแต่มีการเคลื่อนไหว
เมื่อวันอังคารตำรวจไทยยิงปืนฉีดน้ำและแก๊สน้ำตาใส่ผู้ประท้วงที่เดินขบวนในรัฐสภา และมีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 18 คน จากการปะทะที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการประท้วงโดยเยาวชนในเดือนกรกฎาคมการประท้วงกลายเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศไทยในรอบหลายปีอ่านต่อ ...
รัฐบาลกำลังต่อสู้กับผู้ประท้วงที่ 'เข้าใจเทคโนโลยี'
นักวิชาการและอดีตผู้นำการประท้วงกล่าวว่า รัฐบาลกำลังพยายามที่จะจัดการกับกลุ่มผู้ประท้วงซึ่งเป็นเยาวชนที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี โดยใช้ประโยชน์สูงสุดจากเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารและแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือหลักในการรณรงค์ต่อต้านรัฐบาล และยังมีความกังวลเกี่ยวกับการเผชิญหน้าที่อาจเกิดขึ้นระหว่างผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลและกลุ่มสนับสนุนสถาบันกษัตริย์ที่ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อตอบโต้ข้อเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์อ่านต่อ ...
ผู้สื่อข่าวบางกอกโพสต์
นายกฯ ไทยปฏิเสธคำสั่งห้ามประท้วงผู้ประท้วงที่ให้เขาต้องลาออก
ในวันพุธ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ออกมาพูดเกี่ยวกับมาตรการฉุกเฉินที่ได้ประกาศไว้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อหยุดการประท้วงตลอด 3 เดือนที่เกิดขึ้น แต่ผู้ประท้วงกล่าวว่า ยังไม่เพียงพอและเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกภายใน 3 วันอ่านต่อ ...
ตำรวจยิงปืนฉีดน้ำใส่กลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยใน กทม.
ตำรวจชุดปราบจลาจลได้ใช้ปืนฉีดน้ำเพื่อปราบปรามผู้ประท้วงหลายพันคนที่ชุมนุม ณ แยกปทุมวัน ที่ได้ท้าทายคำสั่งห้ามไม่ให้มีการชุมนุมของกลุ่มคนจำนวนมากในช่วงสถานการณ์ฉุกเฉินที่รุนแรงการประท้วงซึ่งมีกำหนดจะเริ่มในเวลา 17.00 น. ของวันที่ 16 ตุลาคม แต่เดิมนั้นมีแผนที่จะจัดขึ้นที่สี่แยกราชประสงค์ ซึ่งการประท้วงก็เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (15 ต.ค. ) และภายหลังมีการปราบปรามการประท้วงที่ทำเนียบรัฐบาลในเช้ามืดของวันที่ 15 ตุลาคมอ่านต่อ ...
ครม.เห็นชอบประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินกทม. 1 เดือน
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษการ มีการรอนุมัติ การประกาศภาวะฉุกเฉินที่มี “ร้ายแรง” ในกรุงเทพฯโดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลตั้งใจที่จะบังคับใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน เป็นเวลา 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคมเมื่อวันพฤหัสบดีมีการประกาศภาวะฉุกเฉิน เพื่อควบคุมการประท้วงเพื่อประชาธิปไตยที่ทวีความรุนแรงขึ้น และจะต้องได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีภายใน 3 วันหลังการประกาศ ภาวะฉุกเฉิน ซึ่งอนุญาตให้เจ้าหน้าที่กักขังผู้ต้องสงสัยได้นานถึง 30 วันโดยไม่มีค่าใช้จ่ายและห้ามมีการชุมนุมเกิน 5 คนอ่านต่อ ...
ผู้สื่อข่าว เดอะ เนชั่น
ผู้ประท้วงไทยท้าทายสถานการณ์ฉุกเฉินด้วยการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลครั้งใหญ่
ผู้ประท้วงหลายพันคนได้ท้าทายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่ประกาศโดยนายกรัฐมนตรี เพื่อตอบสนองต่อการประท้วงครั้งใหญ่ที่เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกและปฏิรูประบอบรัฐธรรมนูญของประเทศพลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามในคำสั่งประกาศสถานการฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในคืนวันพุธ หลังจากผู้ประท้วงหลายหมื่นคนได้เดินขบวนไปยังห้องทำงานของเขาที่ทำเนียบรัฐบาล โดยหลายชั่วโมงก่อนหน้านั้นได้สาบานว่าจะไม่ออกไปจากทำเนียบฯ จนกว่านายกฯจะยอมลงจากตำแหน่ง ซึ่งหลังจากประกาศภาวะฉุกเฉินไม่นาน ตำรวจได้สลายฝูงชนผู้ชุมนุมและจับกุมผู้คนมากกว่า 20 คนที่ไม่ยอมออกไป รวมทั้งจับกุมแกนนำการประท้วงนายอานนท์ นำภา หรือ ทนายอานนท์ และพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวินอ่านต่อ ...